นโยบายความเป็นส่วนตัว

การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ต้องตรวจสอบเนื้อหานโยบายเกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปนี้ และให้ความยินยอมในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการสมัครเข้าร่วม (หน้าที่ 1 ของแบบฟอร์มใบสมัครมีช่องสำหรับทำเครื่องหมายเพื่อแสดงความยินยอม)

การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯจะดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิฯเก็บรวบรวมและข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยที่มูลนิธิฯ ได้รับจากผู้ได้รับรางวัลหรือผู้ได้รับทุนหรือผู้ได้รับเชิญอย่างถูกต้องเหมาะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย (มีผลบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม 2565) (ต่อไปนี้เรียกว่า“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)(ต่อไปนี้เรียกว่า“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มีนาคม 2564

มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มีนาคม 2564

หลักการพื้นฐานสำหรับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ ได้กำหนดหลักการพื้นฐานในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล และจะปฏิบัติตามหลักการดังกล่าวในการดำเนินการนั้น ดังนี้

  1. การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และกฎเกณฑ์อื่น ๆ

    มูลนิธิฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายกฎระเบียบสัญญาและระเบียบภายในของมูลนิธิฯ ตลอดจนกฎเกณฑ์อื่นๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

  2. การได้มาและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลต่างๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม

    มูลนิธิฯจะดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากบุคคลต่างๆ ภายในขอบเขตของ “วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล” ตามที่กำหนดไว้ด้านล่างนี้โดยจะต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นสำหรับการดำเนินการดังกล่าวและจะดำเนินการโดยเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

    สำหรับโครงการ Japanese Language Program มูลนิธิฯอาจมีการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลโดยจะดำเนินการตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    【ทุนอบรมครู ณ ประเทศญี่ปุ่น】

    ประเภทของข้อมูลที่ได้รับ วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูล วิธีการได้มาซึ่งข้อมูล
    ข้อมูลทั่วไป (ที่อยู่ ชื่อ เพศ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร อีเมล ระดับความสามารถภาษาญี่ปุ่น (ข้อมูลการสอบ JLPT) การประเมินความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเอง ประวัติการศึกษา ประวัติการอยู่อาศัยในญี่ปุ่น ประวัติการเรียน/ฝึกอบรมภาษาญี่ปุ่น ประวัติการทำงาน รูปถ่ายหน้าตรง)
    • การคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ
    • การบริหารจัดการเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมโครงการ
    • การวิเคราะห์ข้อมูลอ้างอิง เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการรับสมัครเข้าร่วมโครงการในอนาคต และการแนะนำข้อมูลการรับสมัครเข้าร่วมโครงการ
    • การจัดส่งข่าวสารและข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับกิจการหลักของมูลนิธิฯสิ่งพิมพ์เผยแพร่ต่างๆ และแบบสอบถาม
    ตอนสมัครเข้าร่วมโครงการ: รูปแบบเอกสารหรือข้อมูลดิจิตัลจากผู้สมัครหรือผู้แทนของโรงเรียนที่สังกัด (แบบฟอร์มใบสมัครเข้าร่วมโครงการที่มูลนิธิฯ เป็นผู้จัดทำ)
    แฟ้มสะสมผลงานที่ระบุประวัติการฝึกอบรม ฯลฯ
    • การคัดกรองผู้เข้าร่วมโครงการ
    ตอนสมัครเข้าร่วมโครงการ: เฉพาะผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบเอกสาร รูปแบบเอกสารหรือข้อมูลดิจิตัลจากผู้สมัคร
    ข้อมูลภาพ
    กลุ่ม เอ: วิดีทัศน์ห้องเรียน (วิดีทัศน์บันทึกการสอนในห้องเรียนที่จัดสอนโดยผู้สมัคร)
    • การคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ
    • ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะมีชื่อเข้าร่วมงานมอบรางวัล ได้รับการประชาสัมพันธ์ และโพสต์บนเว็บไซต์
    • เอกสารอ้างอิงในช่วงการฝึกอบรมที่ผู้ผ่านการคัดเลือกได้รับการชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญ
    ตอนสมัครเข้าร่วมโครงการ: เฉพาะผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบเอกสาร รูปแบบเอกสารหรือข้อมูลดิจิตัลจากผู้สมัคร
    ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเดินทางและพักอาศัยในประเทศญี่ปุ่น (ข้อมูลหนังสือเดินทาง)
    • การพิจารณาตัดสินว่าจะได้รับเลือกเข้าร่วมหรือไม่ได้เข้าร่วมในโครงการ
    • การจัดการในเรื่องสุขภาพและอาหารในระหว่างเข้าร่วมโครงการ
    • การจัดการในเรื่องอื่นๆ ที่จำเป็นเกี่ยวกับศาสนา
    ตอนยืนยันการเข้าร่วมโครงการ: รูปแบบเอกสารหรือข้อมูลดิจิตัลจากผู้สมัคร หรือจากการสอบถาม (กรอกแบบฟอร์มตรวจสุขภาพ และรายละเอียดต่างๆ ในแบบฟอร์มที่มูลนิธิฯเป็นผู้จัดทำ)
    ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการจัดการความปลอดภัย/สุขภาพ (ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ อาการแพ้สิ่งต่างๆ และข้อมูลการนับถือศาสนา)
    • การพิจารณาตัดสินว่าจะได้รับเลือกเข้าร่วมหรือไม่ได้เข้าร่วมในโครงการ
    • การจัดการในเรื่องสุขภาพและอาหารในระหว่างระยะเวลาโครงการ
    • การจัดการในเรื่องอื่น ๆ ที่จำเป็นเกี่ยวกับศาสนา
    เมื่อมีการยืนยันว่าบุคคลนั้นได้เข้าร่วมในโครงการ โดยจะได้รับข้อมูลจากบุคคลนั้น ๆ ในรูปแบบข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษรหรือในรูปแบบข้อมูลอื่นที่จัดให้หรือจากการสัมภาษณ์ (โดยการกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพในแบบฟอร์มและรูปแบบที่จัดเตรียมโดยมูลนิธิ)
    ข้อมูลภาพ
    กลุ่ม บี: (ภาพถ่ายและวิดีทัศน์ในการร่วมงานมอบรางวัลที่กรุงเทพฯ)
    • การบันทึกและเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ
    • การโพสต์บนเว็บไซต์
    งานมอบรางวัล: ข้อมูลในรูปแบบวีดีทัศน์ซึ่งบริษัทที่รับผิดชอบโครงการ บริษัทตัดต่อวีดีทัศน์ บริษัทที่ดูแล/ดำเนินการเกี่ยวกับงานอีเวนท์ หรือมูลนิธิฯเป็นผู้บันทึก
    กลุ่ม ซี: (ภาพถ่ายและวีดิทัศน์ในระหว่างการดำเนินโครงการ)
    • การบันทึกและเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ
    • การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการอ้างอิงสำหรับการรับสมัครและดำเนินโครงการในอนาคต
    • การโพสต์บนเว็บไซต์
    • การบันทึกกิจกรรมและการประชาสัมพันธ์
    • เพื่อการแบ่งปันกรณีศึกษาระหว่างอาจารย์ที่เข้าร่วมการอบรม
    • เอกสารอ้างอิงที่ได้รับการชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญ
    ระหว่างเข้าร่วมโครงการอบรม: บริษัทบริหารธุรการ บริษัทตัดต่อวิดีทัศน์ บริษัทที่ดูแล/ดำเนินการเกี่ยวกับงานอีเวนท์ หรือมูลนิธิฯเป็นผู้บันทึกจากการถ่ายทำ
    กลุ่ม ดี: (วีดิทัศน์การสัมภาษณ์อาจารย์ในระหว่างการไปอบรมที่ญี่ปุ่น และวีดิทัศน์ในชั่วโมงเรียนภาคปฏิบัติจริงระหว่างการไปอบรมที่ญี่ปุ่น)
    • การบันทึกและเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ
    • การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการอ้างอิงสำหรับการรับสมัครและดำเนินโครงการในอนาคต
    • การโพสต์บนเว็บไซต์
    • การบันทึกกิจกรรมและการประชาสัมพันธ์
    • เพื่อการแบ่งปันกรณีศึกษาระหว่างอาจารย์ที่เข้าร่วมการอบรม
    • เอกสารอ้างอิงที่ได้รับการชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญ
    ในขณะที่ดำเนินโครงการที่ประเทศญี่ปุ่น : สำนักงานมูลนิธิ, บริษัทตัดต่อวีดิทัศน์ หรือมูลนิธิฯเป็นผู้บันทึกการถ่ายทำโดยการสัมภาษณ์อาจารย์ที่เข้าร่วมงานนำเสนอผลงานจากที่ได้ปฏิบัติจริง
    การจัด forum : มูลนิธิฯเป็นผู้บันทึกข้อมูลจากการถ่ายทำ
    ในตอนที่รวบรวมกรณีศึกษา :สำนักงานมูลนิธิ, บริษัทตัดต่อวีดิทัศน์ หรือมูลนิธิฯเป็นผู้บันทึกข้อมูลจากการถ่ายทำ

    หากมูลนิธิฯได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอื่นนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ข้างต้นมูลนิธิฯจะใช้ข้อมูลดังกล่าวต่อเมื่อมูลนิธิฯได้รับความยินยอมเป็นการเฉพาะแยกต่างหากจากบุคคลนั้นก่อนนอกจากนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลมูลนิธิฯ จะแจ้งให้บุคคลนั้นทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและหากบุคคลนั้นไม่ให้ความยินยอมต่อการเปลี่ยนแปลงมูลนิธิฯจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่บุคคลนั้นได้ให้ความยินยอมไว้

  3. การให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลอื่น

    เพื่อดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลในข้อ “2. การได้มาและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลต่างๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม” มูลนิธิฯ อาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการภายใน“ขอบเขตของงาน”ตามที่กำหนดด้านล่างนี้ทั้งนี้โดยที่หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะต้องดำเนินการโดยว่าจ้างผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมูลนิธิฯ จะคัดเลือกผู้ให้บริการที่ให้คำยืนยันว่าจะบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยวิธีการที่ปลอดภัยตามกฎระเบียบที่ใช้เป็นการภายในของตนและมูลนิธิฯจะเป็นผู้ดูแลในเรื่องดังกล่าวให้มีการดำเนินการอย่างถูกต้องเหมาะสมนอกจากนี้มูลนิธิฯจะไม่เปิดเผยหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลนั้น เว้นแต่กฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

    • หน้าที่ด้านการบริหารโครงการผู้ให้บริการ/ผู้ดำเนินการ ได้แก่ เจแปนฟาวน์เดชั่น (สำนักงานใหญ่ เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ) สมาคมครูภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นแห่งประเทศไทย (JTAT) บริษัทที่บริหารโครงการ สมาชิก คณะกรรมการคัดเลือก
    • การตัดต่อและการอัพโหลดวิดีโอผู้ให้บริการได้แก่บริษัทที่บริหารโครงการบริษัทตัดต่อวิดีโอบริษัทที่บริหารงาน/ดำเนินการเกี่ยวกับงานอีเวนท์
    • การอัพโหลดข้อมูลของผู้เข้าร่วมโครงการเข้าสู่เว็บไซต์ของมูลนิธิฯผู้ให้บริการได้แก่ บริษัทที่บริหารโครงการ บริษัทออกแบบเว็บไซต์
    • การจัดเตรียมในเรื่องการเดินทางผู้ให้บริการได้แก่บริษัทที่บริหารโครงการ ตัวแทนการท่องเที่ยว (travel agency)
    • การเก็บรักษาและการบริหารจัดการข้อมูลผู้ให้บริการได้แก่ผู้ให้บริการระบบ
    • การจัดการเกี่ยวกับประกันภัย ผู้ให้บริการได้แก่ บริษัทประกันภัย
  4. การส่งหรือโอนข้อมูลไปยังประเทศที่สาม

    มูลนิธิฯ จะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลจากประเทศไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะมีการบริหารจัดการอย่างถูกต้องเหมาะสมตามนโยบายฉบับนี้นอกจากนี้ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกส่งหรือโอนไปยังประเทศอื่นนอกประเทศไทยไปยังประเทศหรือภูมิภาคอื่นใดที่ไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่น/ประเทศไทย โดยหลักการแล้วการส่งหรือโอนดังกล่าวจะดำเนินการโดยเป็นไปตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อสัญญามาตรฐาน (Standard Contract Clauses (SCC))

  5. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์

    มูลนิธิฯ จะไม่รับหรือดำเนินการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของผู้เยาว์ทั้งนี้หากพบว่ามีผู้เยาว์ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่มูลนิธิฯโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของผู้เยาว์กรุณาติดต่อมูลนิธิฯโดยด่วน

  6. ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษ

    มูลนิธิฯ อาจได้รับมาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษ (เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาสุขภาพอาการแพ้สิ่งต่างๆ เป็นต้น) ทั้งนี้ภายในขอบเขตตามวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลนั้นๆ และเมื่อได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวก่อนแล้วเท่านั้น

  7. การให้ความรู้แก่ผู้บริหารและพนักงาน

    มูลนิธิฯ จะส่งเสริมให้มีการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องเหมาะสมและโดยยึดตามกฎหมายและกฎระเบียบทั้งปวงอย่างเคร่งครัดโดยจะจัดให้มีการฝึกอบรมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้บริหารและพนักงานอยู่เป็นประจำเพื่อให้ความรู้แก่ผู้บริหารและพนักงานเกี่ยวกับความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลข้อกำหนดทางกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องระบบการบริหารจัดการและกฎระเบียบสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบดังกล่าว

  8. การจัดทำระบบการบริหารสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

    มูลนิธิฯ จะกำหนดระบบการบริหารภายในและกำหนดหน้าที่รับผิดชอบและแต่งตั้งหัวหน้าผู้ดูแลในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินการให้มั่นใจได้ว่าจะมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  9. ข้อชี้แจงเรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

    มูลนิธิฯ จะกำหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับการเข้าดูการใช้การเก็บรักษาการแจกจ่ายและการส่งคืนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมั่นคงปลอดภัยและถูกต้องเหมาะสมและจะปฏิบัติตามกฎระเบียบดังกล่าวภายใต้การดูแลของหัวหน้าผู้ดูแลในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล

    นอกจากนี้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาจะถูกลบหรือทำลายด้วยวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมหลังจากครบกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาที่กฎหมายกำหนดหรือครบกำหนดการเก็บรักษาตามที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติงาน

  10. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลโดยปราศจากอำนาจ

    มูลนิธิฯ จะจัดทำระบบข้อมูล และระบบบริหารจัดการข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะสม และมีมาตรการอื่น ๆ เพื่อป้องกันการลักขโมย การสูญหาย การเปลี่ยนแปลง หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลอันเนื่องมาจากการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจ

  11. การกำหนดระบบตอบสนองที่ทันท่วงทีเพื่อแก้ปัญหา

    มูลนิธิฯ จะจัดทำระบบที่จะสามารถตรวจหาปัญหาได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง กรณีเกิดปัญหาขึ้น และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

  12. สิทธิของบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล

    บุคคลมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่มูลนิธิฯมีไว้ ดังต่อไปนี้ (สิทธิตามมาตรา 30 ถึงมาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)

    1. สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
    2. สิทธิในการขอให้มีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
    3. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
    4. สิทธิในการขอให้มีการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล
    5. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
    6. สิทธิในการขอให้มีการดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง
    7. สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศไทยหรือมูลนิธิฯหากท่านไม่พึงพอใจต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิฯ
  13. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

    มูลนิธิฯ มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยตรวจสอบการบริหารและโดยปรับปรุงการดำเนินการให้สอดคล้องกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายนอกบริษัท

  14. ข้อมูลสำหรับติดต่อเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล

    การติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล หรือการร้องขอเพื่อสอบถามยืนยัน แก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล หรือยื่นข้อร้องเรียน เป็นต้น กรุณาติดต่อมายังศูนย์ติดต่อสอบถามตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์จะทำการยืนยันตัวตน เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนในเรื่องที่ได้รับการติดต่อสอบถามต่อไป

    มูลนิธิฮาคูโฮโด สำนักงานโครงการ Japanese Language Program

    (โดยส่งถึง บริษัท โปรดักส์ (กรุงเทพฯ) จำกัด)

    บริษัท โปรดักส์​ (กรุงเทพฯ) จำกัด

    333/13 ตึก UNITED TOWER ชั้น 7 ห้อง 7/1 ซอยสุขุมวิท 55

    ถนนทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

    โทรศัพท์ 06 1174 7233, 09 0894 1624

    อีเมล: info@hakuhodo-jplang.org

    https://www.hakuhodo-global.com/network/products-bangkok-co-ltd.html

    https://www.hakuhodo-jplang.org


Hakuhodo foundation ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเรา

หากคุณยังคงใช้งานบนเว็บไซต์ เราถือว่าคุณยอมรับ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

Hakuhodo foundation ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดี
ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเรา หากคุณยังคงใช้งานบนเว็บไซต์
เราถือว่าคุณยอมรับ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)